ลงทุนมหาศาล นับจากที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามากุมบังเหียนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรจำเป็นต้องควักกระเป๋าสร้างทีมตามที่ “น้าลูกอม” ต้องการ

ลงทุนมหาศาล นับจากที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามากุมบังเหียนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรจำเป็นต้องควักกระเป๋าสร้างทีมตามที่ “น้าลูกอม” ต้องการด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลแต่ตลอดช่วงระยะเวลาประมาณ3 ปี

แต่บทสรุปความทีมยังไม่มีแนวทางและความสำเร็จ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวนอร์เวย์วัย 48 ปี กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่แสนยากลำเค็ญตั้งแต่แมื่อที่นำ “ปีศาจแดง” แพ้ยับไม่นับญาติต่อ ลิเวอร์พูล ในเกม “แดงเดือด” สกอร์ 0-5

ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งสร้างความอัปยศอดสูให้กับสาวก “เร้ด อาร์มี่” ด้วยเหตุว่าทีมรักไม่เคยแพ้เละแบบงี้ต่อศัตรูตลอดกาลเลย นอกเหนือจากนั้นความแพ้พ่ายในแมตช์ดังกล่าวข้างต้นทำให้สถิติสำหรับในการเล่นเกมลีก 4 แมตช์

ปัจจุบันพวกเขาเก็บได้เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ลงทุนมหาศาล โดยแพ้ 3 เสมอ 1 และนำมาซึ่งการทำให้ในเวลานี้อันดับร่วงกราวรูดไปอยู่ที่ 7 มีคะแนนตามหลัง เชลซี จ่าฝูงถึง 8 แต้ม ความล้มเหลวตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด ทั่วโลก

เหตุเพราะโซลชา มีโอกาสได้จับจ่ายใช้สอยนักเตะที่ตัวเองอยากได้มาร่วมทีมมากมาย แล้วก็แต่ละคนก็ระดับสตาร์ลูกหนัง แต่ผลงานดันสวนทางอย่างสิ้นเชิง จริงๆ แล้วนับตั้งแต่ที่ “น้าลูกอม” ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่กุมบังเหียน “ผีแดง” ถาวร

สโมสรให้การหนุนหลังเขามาตลอดโดยเฉพาะในเรื่องการเสริมทัพ ฉะนั้นจึงอ้างไม่ได้ว่าบอร์ดบริหารไม่สนับสนุนการทำงานของเขา ลองคิดดูก็แล้วกันว่าตอนที่โซลชา เข้ามาคุมทัพ เขาเคยใช้เงินในการทุ่มซื้อนักเตะที่มีราคาแพงมากกว่า 50ล้านปอนด์

ลงทุนมหาศาล ได้แก่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ 85ล้านปอนด์ (ราว3,740ล้านบาท), บรูโน่ แฟร์นันด์ส 55ล้านปอนด์ (ราว2,420ล้านบาท), เจดอน ซานโช่ 73ล้านปอนด์ (ราว3,212ล้านบาท) และ อารอน วาน-บิสซาก้า 51ล้านปอนด์ ข่าวแมนยู

ลงทุนมหาศาล

บทสรุปความทีมยังไม่มีแนวทางและความสำเร็จ

ลงทุนมหาศาล นอกจากนี้ยังมีนักเตะที่ อดีตหัวหอกซูเปอร์ซับ อยากได้มาเสริมทัพ และอ้อนขอให้บอร์ดควักกระเป๋าซื้อให้ได้แก่ ราฟาแอล วาราน 42.7ล้านปอนด์ (ราว1,879ล้านบาท) ส่วนในรายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ต้องบอกว่าเป็นอุบัติเหตุลูกหนังที่พวกเขาจำใจต้องซื้อ แต่โซลชา ก็ยินดีรับไว้ เพราะค่าตัวแค่ 19.7ล้านปอนด์ (ราว867ล้านบาท) ยังไม่หมดแค่นั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีการเสริมทัพตามใบสั่งของโซลชา อีกมากมายทั้ง อาหมัด ดิยัลโล่ 37ล้านปอนด์

(ราว1,628ล้านลาท) ส่วน อเล็กซ์ เตลลิส ย้ายมาในราคา 15.7ล้านปอนด์ (ราว691ล้านบาท) และ ฟากุนโด้ เปเยสตรี สนนราคาเบาๆ 9ล้านปอนด์ (ราว396ล้านาท) แฟนผีโปรเจกต์คิดว่าหมดแล้วใช่ไหม ยังครับ เพราะถ้าหากยังไม่ลืมกันคงจำชายชื่อ

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กองกลางอนาคตไกลของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่ย้ายมาดับสนิทกับ แมนฯ ยูฯ โดยตอนนั้นพวกเขาทุ่มเงินซื้อมาร่วมทีมถึง 40ล้านปอนด์ (ราว1,760ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูฯ ยังพอที่จะทำเงินจากการขายนักเตะในยุคโซลชา

ได้บ้างนั่นก็คือการปล่อย โรเมลู ลูกากู ไปให้ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 73ล้านปอนด์ ในปี 2019 และ แดเนี่ยล เจมส์ ที่ขายให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยค่าตัวเบื้องตัน 25 ล้านปอนด์ (ราว1,100ล้านบาท)

รวมเบ็ดเสร็จแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้การสนับสนุน โซลชาอย่างเต็มที่ด้วยเม็ดเงินในการลงทุนสร้างทีมจำนวนกว่า 312.1ล้านปอนด์ (ราว13,732ล้านบาท) ซึ่งแน่นอนว่านี่คือจำนวนเงินที่มากมายมหาศาล ซึ่ง หลุยส์ ฟาน กัล

และ มูรินโญ่ ไม่เคยได้รับการหนุนหลังขนาดนี้ กระนั้น อาจารย์หลุยส์ กับ “เฮียมู” สามารถนำความสำเร็จแบบเบาๆ มาสู่สโมสรด้วยการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ (ฟาน กัล กับ มูรินโญ่) และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (มูรินโญ่)

แต่สำหรับโซลชา จนถึงตอนนั้นนอกจากสถิติสุดยอดนำทีมคว้ารองแชมป์ ยูโรปา ลีก แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันซักอย่าง ด้วยเหตุนี้เหล่าสาวก “เร้ด อาร์มี่” จำนวนมากจึงมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า

ลงทุนมหาศาล ด้วยการลงทุนแบบไม่อั้นแต่ผลงานสวนทางขนาดนี้ มันจึงสมเหตุสมผลที่บอร์ดบริหารต้องพิจารณาตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะหากยังให้โอกาสต่อไป สถานการณ์เลวร้ายอาจจะบานปลายไปจนแก้ไขไม่ทัน ไม่ปัดโอกาส