ลุ้นสร้างสถิติ ลิเวอร์พูลตระเตรียมเปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับ เบิร์นลี่ย์ เกมลีกนัดหมาย 2 ไฮไลต์สำคัญคงจะหนีไม่พ้นการที่ “ลิเวอร์พูล” จะได้เล่นในบ้าน

ลุ้นสร้างสถิติ ลิเวอร์พูลตระเตรียมเปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับเบิร์นลี่ย์ เกมลีกนัดหมาย 2 วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ โดยไฮไลต์สำคัญคงจะหนีไม่พ้นการที่ “ลิเวอร์พูล” จะได้เล่นในบ้านเฉพาะหน้าสาวก “เดอะค็อป”

และก็ยังเป็นแมตช์ที่กำลังจะได้แก้แค้นทีมเยือนที่เคยทำแสบเอาไว้เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สำหรับแมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ยังคงขาดลำแข้งสำคัญอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่อยู่ในตอนเรียกความฟิต โรนัลโด้ทำสถิติ

แล้วก็คงจะกลับมาลงเล่นได้ในแมตช์สำคัญที่จะดวลกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซีในอาทิตย์หน้า เหมือนกับ ฟาบินโญ่ ที่เพิ่งจะสูญเสียคุณพ่อ คงจะทำให้ภาวะจิตใจยังไม่พร้อมที่จะลงสู่สนาม แมตช์นี้น่าจะเป็นแรงผลักดันอย่างยอดเยี่ยม

สำหรับหน้าแข้ง “เดอะเร้ดส์” ด้วยเหตุว่าพวกเขาเคยโดน เบิร์นลี่ย์บุกมายัดเยียดความพ่ายแพ้ในบ้านกับการเล่นเกมลีกครั้งแรก หยุดสถิติไม่มีแพ้ในแอนฟิลด์เอาไว้ที่ 68 เกม เพราะฉะนั้นนี่นับว่าเป็นโอกาสงามยามดีที่กำลังจะได้ล้างแค้น

“เดอะคลาเร็ตส์” ต่อหน้าต่อตาแฟนบอลของพวกเขา คล็อปป์ไว้วางใจ มาติป มากยิ่งกว่า โกนาเต้ จากในกรณีที่ โจ โกเมซ ยังคงไม่ฟิตเต็มที่โน่นทำให้ คล็อปป์มีตัวเลือกกองหลังตัวกลาง ที่จะมายืนคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์

ก็คือ โฌแอล มาติป, อิบราฮิม่า โกนาเต้, แนท ฟิลลิปส์ และก็ รีส วิลเลี่ยมส์ ซึ่งดูท่าเปอร์เซนต์ผู้ที่จะได้พอดีจริงมันก็คือ มาติป ผลงานของ มาติป ด้ามจับคู่กับ ฟาน ไดค์ นับว่าเด่นมากมายๆในแมตช์เปิดฤดูกาลที่ไล่ทุบ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้

ทำให้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน คงจะไว้ใจเขาให้ลงปฏิบัติภารกิจเป็นหัวใจในแดนกลางอีกแมตช์ ในช่วงเวลาที่ โกนาเต้ ยังคงจำต้องคอยโอกาสของเขาถัดไป เพราะว่านักฟุตบอลดูอย่างกับว่ายังจำต้องใช้เวลาอีกครู่หนึ่ง

สำหรับเพื่อการปรับนิสัยให้กับเกมลูกหนังในลีกเมืองผู้ดีที่เน้นการใช้พลังและก็ร่างกายเป็นส่วนมาก ส่วน วิลเลี่ยมส์ กับ ฟิลลิปส์ นับว่าเป็นยางอะไหล่ชั้นยอดในยามฉุกเฉินแค่นั้น ในช่วงเวลาที่ โกเมซ ดูเหมือนกับว่าทางสำหรับเพื่อการคืนสนามของเขา

ยังคงจะต้องใช้เวลาอีกนาน หากแม้เกมปัจจุบันจะมีชื่อเป็นตัวสำรอง ลุ้นสร้างสถิติ แม้กระนั้นนักฟุตบอลก็พึ่งพลาดลงฝึกร่วมกับทีมในตอนต้นอาทิตย์นี้ แต่กระนั้นถึงแม้เจ้าตัวจะสามารถกลับมาฝึกกับทีมได้ในอีกไม่กี่วัน แม้กระนั้นมั่นใจว่าคล็อปป์ อาจจะยังไม่เสี่ยงที่จะใช้งานเขาไปอีกครู่หนึ่ง

ช่องทางอีกเกมที่ ซิมิคาส จะได้สร้างความตรึงใจ เวลาสำหรับ คอสตาส ซิมิคาส สำหรับการสร้างผลงานให้ต้องใจ คล็อปป์เริ่มเหลือลดน้อยลงแล้ว ภายหลังที่มีกล่าวว่าขณะนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เริ่มกลับมาเรียกความฟิตได้แล้ว รวมทั้งมีความน่าจะเป็นสูงที่เขาจะฟิตสมบูรณ์ในแมตช์พบ เชลซีสัปดาห์หน้า

ดังนั้น ซิมิคาส จำเป็นมากที่จะจะต้องรีดฟอร์มเก่งของเขาออกมาให้ได้ เพราะเหตุว่าในแมตช์ที่ชนะ นอริช ซิตี้ แม้นักเตะจะส่งผลงานที่น่าประทับใจในเกมรุก แม้กระนั้นเกมรับยังมีปัญหาโดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องสมาธิสำหรับการเล่น

ฟูลแบ็กทีมชาติกรีซ ทำบอลเสียเปล่าครั้งรอบๆหน้าประตูจนถึงทำให้ลิเวอร์พูล โดนทำประตู ซึ่งจุดนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นกับ โรเบิร์ตสัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี่ก็เลยเป็นสิ่งที่จำเป็นมากมายๆที่ ซิมิคาส จำเป็นต้องรีบปรับปรุง หากยังอยากได้ลงเล่นตัวจริงถัดไป

สำหรับในกรณีของ “ร็อบโบ้” จำเป็นต้องพูดว่าร่างกายช่างเข้มแข็งอย่างมาก ข้างหลังได้รับบาดเจ็บที่เอ็นข้อเท้าในเกมปรีฤดูกาลโดยเขาใช้เวลาเพียงแค่ 12 วันสำหรับในการพักฟื้นร่างกายก็สามารถกลับมาลงซ้อมร่วมกับเพื่อนฝูงร่วมทีมเมื่อวันศุกร์ก่อนหน้าที่ผ่านมา

ลุ้นสร้างสถิติ จำต้องกล่าวว่าเป็นเลิศในข่าวดีของทีม เพราะเหตุว่าก่อนหน้านั้น คล็อปป์สารภาพว่า ตัวบุกปีกซ้ายชาวสกอตติช บางครั้งอาจจะกลับมาลงในสนามให้ทีมได้หลังหรือก่อนพักเบรกทีมชาติ แต่งานนี้นักฟุตบอลสามารถเรียกความฟิตได้เร็ว และก็มีลุ้นช่วยกลุ่มในเกม “บิ๊กแมตช์” ปะทะเชลซี ข่าวแมนยู

ลุ้นสร้างสถิติ

“เดอะ ค็อป” และก็ยังเป็นแมตช์ที่กำลังจะได้แก้แค้นทีมเยือนที่เคยทำแสบเอาไว้

ลุ้นสร้างสถิติ เฮนเดอร์สัน-ติอาโก้ ฝึกซ้อมเต็มกำลังมีลุ้นตัวจริง จะต้องกล่าวว่าช่างเป็นข่าวเสียใจอย่างมากที่ ฟาบินโญ่ สูญเสียคุณพ่อบังเกิดเกล้า รวมทั้งแน่นอนว่า คล็อปป์คงจะไม่ให้นักฟุตบอลลงสู่สนาม เพราะเหตุว่าอยากให้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเพื่อแก้ไขความเจ็บสำหรับเพื่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นสุดที่รัก

ซึ่งพูดได้ว่าแดนกลางของลิเวอร์พูล จะขาดผู้เล่นโฮลดิ้งกองกลางที่มีความจำเป็นกับเกมอย่างยิ่ง แต่ว่ายังดีที่พวกเขาจะได้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กลับมาช่วยทีมอีกรอบ ภายหลังที่ทั้งคู่คนสามารถลงฝึกได้อย่างเต็มเปี่ยมกับทีมชุดใหญ่

ในแมตช์เปิดฤดูกาลที่ต้อน นอริช ไปแบบสบายๆเฮนเดอร์สัน กับ จอมบุกชาวสแปนิช ไม่ได้มีส่วนกับเกมนั้นเลย แต่ว่าสำหรับในช่วงเวลานี้เรื่องภาวะความฟิตของ “กัปตันเฮนโด้” และก็ ติอาโก้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว แต่งานนี้ก็จำต้องขึ้นกับการเลือกของ “เดอะบอส” ว่าจะใช้ผู้ใดกันแน่ลงในสนาม

เนื่องจากว่าเอาเข้าจริงๆในดินแดนกึ่งกลาง นาบี เกอิต้า นับว่าทำผลงานได้โดดเด่นในเกมกับ นอริช แล้วก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ตอบแทน จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดิม ได้อย่างยอดเยี่ยม เหมือนกับ อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-เชมเบอร์เลน โดยเหตุนี้ คล็อปป์จะต้องตกลงใจระหว่าง เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ ว่าใครกันแน่จะได้ลงเล่นตัวจริง

ถ้าเกิดจะดร็อปป์ เกอิต้า หรือ เชมเบอร์เลน ก็นับว่าไม่ใช่เรื่อง เพราะว่าทั้งคู่คนกำลังทำผลงานเจริญ และไม่มีเหตุมีผลที่จะจะต้องตัดชื่อพวกเขาจากกลุ่มตัวจริงๆโดยเหตุนี้ก็ขึ้นกับคล็อปป์ ว่าอยากได้สไตล์ดุเดือดมีความเป็นผู้แบบเฮนเดอร์สัน หรืออยากได้มิดฟิลด์เชิงสูง มีจินตนาการสำหรับการปั้นเกมอย่าง ติอาโก้ ลงเล่นในแมตช์นี้

ซาลาห์ลุ้นทำสถิติทาบอองรี หนึ่งในเรื่องที่น่าดึงดูดมากมายๆในเกมนี้ก็คือช่องทางของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่จะทำสถิติเทียบเคียงชั้น เธียร์ปรี่ อองรี ตำนานแนวรุกชาวฝรั่งเศสของ อาร์เซน่อล ถ้าหากเขาสามารถซัด 2 ประตูในเกมปะทะเบิร์นลี่ย์

สตาร์ลูกหนังชาวอียิปต์ พึ่งสร้างตำนานสำหรับการทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ลุ้นสร้างสถิติ ที่ทำแต้มในเกมเปิดฤดูกาลได้ 5 ฤดูกาลต่อเนื่องกัน ข้างหลังตะบัน 1 ประตูในสอย นอริช ซิตี้ นัดหมายเปิดฤดูกาลเมื่ออาทิตย์ก่อน

ในเวลาที่เกมเปิดรังแอนฟิลด์ “บังโม” ยังมีลุ้นเดินหน้าสร้างสถิติอีกที เนื่องจากถ้าเกิดเขาสามารถซัดได้ขั้นต่ำสองตุงในแมตช์นี้ จะก่อให้เจ้าตัวแปลงเป็นนักฟุตบอลที่ยิงใน พรีเมียร์ลีก ครบ 100 ลูกได้เร็วสุดเป็นอันดับ 4 ที่ปริมาณ 160 เกม พอๆกับ อองรี ในทันที

ตอน 2-3 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ ซาลาห์ มักโดนตั้งแง่ว่าหวงบอลไม่ค่อยให้เพื่อนฝูงเนื่องจากว่าปรารถนาสร้างสถิติส่วนตัว แต่ว่าจากฟอร์มในเกมนัดหมายเปิดฤดูกาลจะมองเห็นได้ว่า “บังโม” เล่นเป็นทีมเยอะขึ้นเรื่อยๆ

และก็พร้อมส่งบอลให้เพื่อนพ้องร่วมทีมถ้าได้โอกาสดียิ่งกว่า ซึ่งเกมนั้นเขาทำ 2 แอสซิสต์ด้วย ด้วยเหตุนั้นสาวก “เดอะค็อป” คงจะบันเทิงใจได้ว่า ซาลาห์ คงไม่บ้าจี้มองดูเรื่องสถิติส่วนตัวกระทั่งทำให้เกมรุกของทีมเสียสมดุล

แก้เผ็ดเบิร์นลี่ย์ ถึงแม้คล็อปป์ จะออกมาบอกในงานแถลงข่าวเรื่องเอาคืน เบิร์นลี่ย์ที่ทำแสบเอาไว้เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ไม่ได้อยู่ในความนึกคิดของเขาเลย แม้กระนั้นสำหรับลำแข้งลิเวอร์พูล และก็แฟนบอลนี่เป็นนาทีทองที่กำลังจะได้เอาคืน “เดอะคลาเร็ตส์”

ย้อนไปเมื่อเดือนมกราคมก่อนหน้านี้ เบิร์นลี่ย์บุกมาชนะถึงถิ่นแอนฟิลด์ด้วยสกอร์ 0-1 ซึ่งเป็นการหยุดสถิติไม่มีพ่ายเกมเหย้าในลีก 68 เกมของพวกเขา ขณะเดียวการคว้า 3 แต้มนับว่าเป็นชัยเกมแรกของเบิร์นลี่ย์ ที่บ้านลิเวอร์พูล ตั้งแต่แมื่อปี 1974 ด้วย

นอกเหนือจากนั้นการที่ “เดอะเร้ดส์” ได้กลับมาลงเล่นเฉพาะหน้าสาวก “เดอะค็อป” อีกรอบ นับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาฮึกเหิมเป็นอย่างมาก โดยยิ่งไปกว่านั้นการที่จำต้องรับมือเบิร์นลี่ย์ ซึ่งทำแสบกับพวกเขาเอาไว้เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ยิ่งทำให้นักฟุตบอลลิเวอร์พูล มีชีวิตชีวาสุดๆ

ลุ้นสร้างสถิติ ที่สำคัญหากทีมของผู้จัดการทีมเจอร์เก้น คล็อปป์สามารถปราบเบิร์นลี่ย์ ได้สำเร็จ มันจะเปลี่ยนเป็นคราวแรกในหน้าประวัติศาสตร์สมาพันธ์ซึ่งสามารถคว้าแชมป์เกมลีกสองครั้งแรกต่อเนื่องกันเป็นฤดูกาลลำดับที่สี่ต่อเนื่องกัน